พาทุกคนมารู้จัก 8 อาหารที่ไม่ดี กินแล้วทำลายสุขภาพ พร้อมแนะนำอาหารเสริมจากธรรมชาติที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ
บุฟเฟ่ต์ อาหารแปรรูป อาหารฟาสต์ฟูด ชาบู หรืออาหารที่มีรสจัด ยิ่งชาบูหม่าล่าถือเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เพราะมีรสชาติอร่อย กินได้ง่ายหาได้สะดวกและถูกปากคนไทย รวมถึงการเลือกจากความชอบมากกว่าสุขภาพที่ดี ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกาย ยิ่งช่วงหน้าฝนที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคง่ายทำให้ภูมิคุ้มกันตกทำให้ร่างกายป่วยได้ง่าย ซึ่งในบทความนี้ Zenbio จะพาทุกคนมารู้จัก 8 อาหารที่ไม่ดี กินแล้วทำลายสุขภาพ พร้อมแนะนำอาหารเสริมจากธรรมชาติที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ
8 อาหารแสนอร่อย แต่ยิ่งกินยิ่งสุขภาพแย่ อาหารทำลายภูมิคุ้มกัน
เครื่องปรุงแสนอร่อยที่ช่วยเติมความหวานให้กับอาหารและขนม ซึ่งเมื่อกินเข้าไปแล้วทำให้อารมณ์ดีจนเกิดอาการเสพติด แต่เมื่อกินมากเกินไปจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูง ทำให้ร่างกายมีสภาวะความเป็นกรดมากจนร่างกายขาดสมดุล ส่งผลกระทบทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำลง ติดเชื้อได้ง่าย และกระบวนการการเผาผลาญน้ำตาลยังเร่งให้เกิดอนุมูลอิสระได้ ซึ่งจะไปทำลายโครงสร้างของคอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ในชั้นผิว จนทำให้เซลล์ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ผิวไม่กระชับเต่งตึง ส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ สารให้ความหวานแทนน้ำตาลบางชนิดยังทำให้แบคทีเรียในลำไส้ไม่สมดุลซึ่งส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันได้
2. อาหารที่มีโซเดียมสูง [3][19]
การรับประทานเกลือหรืออาหารที่มีรสเค็มเป็นประจำจากอาหารประเภท Processed Food ทุกประเภท เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, อาหารแช่แข็ง, ขนมขบเคี้ยว, ซอสปรุงรส หรือแม้กระทั่งร้านอาหารทั่วไป จากงานวิจัยล่าสุดพบว่าคนไทยมีพฤติกรรมการบริโภคเกลือเฉลี่ยสูงกว่า 2 เท่าของปริมาณที่ร่างกายต้องการ (ใน 1 วัน เราควรทานเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา หรือ 5 กรัมต่อวัน หรือโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม) จะทำให้เกิดผลเสียที่ตามมากับอาหารเค็มก็คือ “โซเดียมสูง” ส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำ จากการกักน้ำในร่างกายเพื่อใช้ในการละลายความเข้มข้นของโซเดียม ไตจะต้องทำงานหนักเพื่อขับโซเดียมออก ทำให้ระดับความดันโลหิตสูงขึ้นจนเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิต ไตวาย นิ่วในไต มะเร็งกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร
3. อาหารไขมันสูง [4]
อาหารไขมันสูง อาหารทอด ปิ้งย่างต่างๆ หรืออาหารที่มีไขมันอิ่มตัว(ไขมันทรานส์) ใครๆก็รู้ว่าไม่ดี และยังทำให้เกิดโรคหลายโรค แต่คนส่วนใหญ่มักชอบทานเพราะอร่อย หากเรารับประทานในปริมาณมากและไม่ออกกำลังกาย จะทำให้มีภาวะน้ำหนักตัวมากก่อเกิดโรคอ้วน รวมถึงเกิดการอักเสบ ทำให้เซลล์เสียหาย ระบบภูมิคุ้มกันโรคทำงานได้แย่ลง ทำลายกลไกการต้านอนุมูลอิสระของร่างกาย และส่งผลเสียต่อจุลินทรีย์ดีในลำไส้ ที่สำคัญจากงานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับมะเร็งระบุว่า โรคอ้วนอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งมากกว่าการสูบบุหรี่ โดยโรคมะเร็งที่อาจมีสาเหตุมาจากโรคอ้วน คือ มะเร็งลำไส้ มะเร็งไต มะเร็งตับ และมะเร็งรังไข่ ดังนั้นคุณไม่ควรมองข้ามการทานอาหารที่มีไขมันสูง
4. แอลกอฮอล์ [5]
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการที่ภูมิคุ้มกันร่างกายลด เพราะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันร่างกายโดยลดประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างกายกำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งแอลกอฮอล์ยังลดประสิทธิภาพยารักษาโรคบางชนิดและทำให้การดูดซึมสารอาหารได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน
5. คาเฟอีน [6]
เครื่องดื่มชูกำลัง ชา กาแฟ หรือแม้แต่น้ำอัดลมต่างๆ ที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ภูมิคุ้มกันตก เพราะคาเฟอีนจะไปกระตุ้นการทำงานของสมอง นอนไม่หลับ ซส่งผลให้พักผ่อนไม่เพียงพอ ขัดขวางการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและอาจกระตุ้นการอักเสบของร่างกายให้เพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งเครื่องดื่มประเภทนี้ยังมีปริมาณน้ำตาลที่สูงหรืออาจมีไขมันอิ่มตัวอีกด้วย จึงอาจส่งผลต่อสุขภาพได้เช่นกัน
6. ธัญพืชขัดสี [7]
ธัญพืชขัดสี จะมีการขัดสีทำให้เยื่อหุ้มเมล็ดและจมูกข้าวของธัญพืชหลุดออกไปเหลือเพียงคาร์โบไฮเดรตเชิงเดียวและเอนโดสเปิร์มเท่านั้น ทำให้คุณค่าของสารอาหารลดลง ซึ่งเมื่อกินเข้าไปจนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง หิวบ่อยขึ้น
7. อาหารฟาสต์ฟู้ด [8]
อาหารฟาสต์ฟู้ด หรืออาหารจานด่วนได้รับความนิยมอย่างมากจากคนทุกเพศทุกวัย เพราะสะดวกรวดเร็วทานง่าย และรสชาติถูกปากอีกด้วย แต่อาหารฟาสต์ฟู้ด(Fast Foods) เป็นอาหารที่มีไขมันทรานส์ (Trans Fat)สูง, ใช้เนื้อสัตว์แปรรูป, มีโซเดียมสูง, คาร์โบไฮเดรตสูง อีกทั้งยังมีสารกันบูดที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหลากหลายได้ รวมถึงยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่ไม่สมดุล มีแคลอรีที่สูง ให้พลังงานมาก เมื่อรวมกับพฤติกรรมการกินที่เร่งรีบยิ่งส่งผลต่อสุขภาพได้อีกทาง หากทานบ่อยมากๆ จะให้เกิด เกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน
8. อาหารแช่แข็ง [9]
อาหารแช่แข็งคืออาหารที่ผ่านการฆ่าเชื้อและเก็บในอุณหภูมิที่ต่ำเพื่อให้เชื้อโรคไม่เจริญเติบโต เมื่อต้องการกินก็จะนำมาอุ่นด้วยไมโครเวฟ ซึ่งส่วนมากมักใส่สารกันบูด อีกทั้งมีปริมาณโซเดียมสูงซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตได้ นอกจากนี้ หากไมโครเวฟที่ใช้ มีความร้อนไม่มากพอก็จะทำให้เชื้อจุลินทรีย์เติบโต และก่อให้เกิดอาการท้องเสียได้
ทั้ง 8 อาหารที่กล่าวไป ล้วนแต่เป็นตัวทำลายสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งใครที่อยากจะมีสุขภาพที่ดี การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์จากธรรมชาตินับเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำได้ ดังนั้นเรามาดู 8 อาหารเสริมจากธรรมชาติ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นกัน
แนะนำ 8 อาหารเสริมจากธรรมชาติ เพิ่มภูมิคุ้มกัน
สารอาหารที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันมีหลากหลายตัว ซึ่งสามารถพบแหล่งอาหารจากธรรมชาติทั้งในผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ธัญพืชเต็มเมล็ด ฯลฯ โดย 8 อาหารเสริมจากธรรมชาติเหล่านี้ สามารถนำมาใช้เพื่อเป็นของทานเล่นระหว่างวัน นำไปประกอบอาหารได้ ดังนี้
1. อัลมอนด์ [10]
อัลมอนด์ ถั่วเปลือกแข็งอุดมไปด้วยไขมันดีหรือไขมันไม่อิ่มตัว และยังมีโปรตีน วิตามินอี แมกนีเซียม และใยอาหารสูง ซึ่งเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของโพรไบโอติกที่ช่วยควบคุมการทำงานของระบบย่อยอาหารและส่งเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งมีงานวิจัยว่าการกินวันละ 1 ฝ่ามือ หรือ 30 กรัม สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ลดไขมัน LDL(คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี) ทั้งยังลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย
2. โยเกิร์ต [11]
โยเกิร์ตอุดมไปด้วยจุลินทรีย์ ‘แล็กโทบาซิลลัส บัลการิคัส’ และ ‘สเตรพโตค็อกคัส เทอร์โมฟิลัส’ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิตช่วยปรับสมดุลลำไส้ นับเป็นโพรไบโอติกเพิ่มภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหารและภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้เป็นปกติ
ขิงมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ อีกทั้งยังมีน้ำมันระเหยง่ายทำให้มีกลิ่นฉุน รสชาติเผ็ดร้อน ช่วยบรรเทาอาการน้ำมูกไหล เจ็บคอไอ และยังช่วยขับลมได้
ปลาทะเลเป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนจำเป็นต่อร่างกาย มีโอเมก้า-3 มากกว่าปลาน้ำจืด ซึ่งช่วยให้ป้องกันการสะสมตัวของไขมันอิ่มตัวหรือคอเลสเตอรอลอันเป็นสาเหตุให้เส้นเลือดอุดตันที่นำไปสู่โรคหัวใจและเส้นเลือดในสมองแตกได้ บำรุงสมองและช่วยให้การทำงานของจอประสาทดีขึ้น
5. ธัญพืชเต็มเมล็ด [20]
ข้าวกล้อง ข้าวสาลี ถั่วต่างๆ ที่ไม่ผ่านการขัดสีและเป็นธัญพืชเต็มเมล็ด ประกอบไปด้วย 3 ส่วนสำคัญ คือ รำ จมูกข้าว และเอนโดสเปิร์ม ทั้ง 3 ส่วนนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินเกลือแร่และแร่ธาตุสำคัญ เช่น มีวิตามินอี ฟอสฟอรัส สังกะสี อีกทั้งยังมีโปรตีน กลูเตน สารต้นอนุมูลอิสระและสารพฤกษเคมี (phytochemicals) รวมถึงมีไฟเบอร์กากใยสูง (พรีไบโอติก)ซึ่งเป็นแหล่งอาหารสำคัญสำหรับโพรไบโอติก ช่วยเสริมประสิทธิภาพของโพรไบโอติกในร่างกายเราได้
6. เห็ด [16]
เบตากลูแคนที่พบในเห็ดสามารถกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งมีรายงานวิจัยระบุว่าเบต้ากลูแคนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มในการต่อสู้กับเนื้องอกและแบคทีเรีย และยังช่วยทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS) มีอาการดีขึ้น
7. ไข่ [17]
เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินดี ที่ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดี กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยังมีโปรตีนสูง ซึ่งทำให้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เพิ่มภูมิคุ้มกันได้ อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคเฉลี่ยวันละ 1 ฟอง
8. ชาเขียว [18]
ชาเขียวมีสารสำคัญที่ชื่อว่า EGCG (Epigallocatechin gallate) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ ช่วยป้องกันเซลล์หัวใจและหลอดเลือด ลดระดับคอลเลสเตอรอลได้ และชะลอการเสื่อมโทรมของเซลล์ผิวหนัง
จบไปแล้วกับ 8 อาหารเสริมจากธรรมชาติ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ลดการติดเชื้อต่างๆ ไม่ป่วยบ่อย ทำให้ร่างกายแข็งแรง การทำงานของระบบต่างๆเป็นปกติ ซึ่งนอกจากอาหารเหล่านั้นแล้ว ใครที่อยากมีสุขภาพดี การเลือกทานอาหารเสริมโพรไบติกก็ช่วยได้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโพรไบโอติก
www.zenbiohealth.com/th/pro-bl8-th-โพรไบโอติก/
อ้างอิง
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โพรไบโอติก
- รู้จักกับโพรไบโอติกส์จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ https://www.zenbiohealth.com/th/โพรไบโอติก-คือ/
- โพรไบโอติกส์กับการเสริมสร้าง ภูมิคุ้มกัน https://www.zenbiohealth.com/th/สร้างภูมิคุ้มกัน/
- รู้จักกับจุลินทรีย์ชนิดดี B. lactis HN019 และประโยชน์ต่อระบบภูมิคุ้มกันและทางเดินอาหาร https://www.zenbiohealth.com/บิฟิโดแบคทีเรียม-แล็กทิส/
โพรไบโอติก ยี่ห้อ ไหนดี, อาหารเสริม, ทาน แล้ว เห็นผล, โพรไบโอติกดีที่สุด, best probiotic, อาหารเสริมโพรไบโอติก, เลือกยี่ห้อไหนดี, ยี่ห้อไหนดีสุด, Zenbio, พรีไบโอติก, ซินไบโอติก, อาหารเสริมธรรมชาติ